นอกจากการรู้จุดแข็งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองแล้ว ก็ยังเป็นประโยชน์ต่อการโค้ชเพื่อสร้างความเป็นเลิศได้อย่างตรงจุด และต่อการทำงานเป็นทีม เพราะการเรียนรู้จุดแข็งของกันและกันจะทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือที่เราคุ้นเคยกันดีว่าจะทำให้เราสามารถ Put the right man in the right job นั่นเองจากผลการวิจัยของกัลลัป โอกาสที่เราจะเจอคนที่มีแบบแผนทางความคิดที่เหมือนเรามีเพียง 1 ใน 33 ล้านคนเท่านั้น ดังนั้นเราแต่ละคนจึงมีรูปแบบการทำงาน ภาวะผู้นำ และการตัดสินใจที่เป็นเอกลักษณ์ของเราแต่ละบุคคล
เมื่อคุณค้นพบพรสวรรค์ในตัวคุณ คุณจะสามารถใช้ความสามารถนั้นผสานการหาทีมงานและใช้เครื่องผ่อนแรงได้อย่างถูกทิศถูกทาง
ข้อดีของการรู้จุดแข็งของตนเองและผู้อื่น
การรู้จุดแข็งของตัวเองทำให้เราเข้าใจการกระทำและพฤติกรรมของตัวเองในอดีตมากขึ้น
การหยิบยกเรื่องจุดแข็งมาพูดคุยในวงสนทนาเป็นประตูบานแรกที่ทำให้เรารู้จักและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น
การรู้จุดแข็งของแต่ละคนช่วยร่นเวลาในการทำความเข้าใจตัวตนและมีประโยชน์ในการทำงานเป็นทีม
คนที่บุคคลิกแตกต่างกันจะแสดงจุดแข็งให้เห็นแตกต่างกันไป คนที่กล้าแสดงออก เราจะเห็นจุดแข็งของเขาแบบชัดเจน รู้ว่ามีพรสวรรค์อะไร แต่คนที่เก็บตัว จุดแข็งจะซ่อนอยู่ ไม่เปิดเผยให้คนนอกเห็นมากนัก
การค้นพบจุดแข็งของตัวเองจะทำให้เรามีพลังเชิงบวกและการหมั่นพัฒนาจุดแข็งของตัวเอง ซึ่งเป็นกระบวนการที่เราต้องทำไปตลอดชีวิต
ข้อควรระวังในการใช้จุดแข็ง
ข้อควรระวังในการใช้จุดแข็ง
ไม่ใช้จุดแข็งของตัวเองเป็นข้ออ้าง ไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแย่ๆ ของตัวเอง
คนส่วนใหญ่เมื่อทำแบบทดสอบเสร็จ รู้ว่าตัวเองได้จุดแข็งอะไร แต่ยังไม่เข้าใจตัวเองเพราะต้องการรู้คำอธิบายรายละเอียดของจุดแข็งแต่ละข้อ
จุดแข็งต้องเกิดจากการรวมพรสวรรค์อย่างน้อย 2-3 ข้อเข้าด้วยกัน การมุ่งมั่นพัฒนาพรสวรรค์เพียงข้อเดียวนั้นยากที่จะสร้างจุดแข็ง
การใช้พรสวรรค์บางข้อมากเกินไปจะสร้างความยุ่งยากใจให้กับผู้อื่นได้ เช่น ถ้าเรามีจุดแข็งเรื่องบัญชาการ และในชีวิตประจำวันเราคอยสั่งการทุกสิ่งทุกอย่าง ตัดสินใจโดยไม่รับฟังคนอื่น คนรอบตัวอาจไม่ชอบได้
จุดแข็งของแต่ละคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การใช้จุดแข็งผิดที่ ผิดเวลา อาจทำให้เราไม่ได้รับการยอมรับและไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้
เข้าใจความแตกต่างและเคารพจุดแข็งของผู้อื่น
Made With Brizy